การเลือกซื้อ PPE ตามประเภทงาน, ความสำคัญของอุปกรณ์ PPE, ไม่มีหมวดหมู่

การเลือกซื้อ SRL (Self-Retracting Lifeline) ตามประเภทงาน

1 การเลือกซื้อ SRL (Self-Retracting Lifeline) ตามประเภทงาน

ทำความเข้าใจกับ SRL (Self-Retracting Lifeline)

SRL หรือ Self-Retracting Lifeline เป็นอุปกรณ์ป้องกันการตกที่ทำหน้าที่หยุดการตกอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในกรณีที่ผู้ใช้งานสูญเสียการทรงตัวหรือตกจากที่สูง โดยตัว SRL จะมีระบบหมุนคลายและดึงกลับสาย (Lifeline) อัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในขณะที่ยังได้รับการป้องกัน ซึ่ง SRL มีหลายประเภท และการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะงานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการทำงานได้

ประเภทของ SRL

  • SRL แบบมาตรฐาน (Standard SRL) : มีความยาวสายทั่วไปประมาณ 3-15 เมตร เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหวในระยะสั้นและกลาง เช่น งานบนอาคาร งานติดตั้งระบบไฟฟ้า และงานซ่อมบำรุง
  • SRL แบบช่วยเคลื่อนที่ได้ (Leading Edge SRL) : ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่สาย Lifeline อาจต้องเสียดสีกับขอบหรือมุม (Edge) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้สาย Lifeline ขาดหรือเสียหาย เหมาะสำหรับงานบนหลังคา งานติดตั้งโครงสร้างที่มีขอบคม และงานก่อสร้างที่มีความเสี่ยงในการตกลงมาจากขอบ
  • SRL แบบช่วยกู้ภัย (Rescue SRL) : มาพร้อมระบบช่วยกู้ภัย (Rescue System) เช่น ระบบหมุนหรือรอกที่ช่วยดึงผู้ที่ตกหรือบาดเจ็บกลับขึ้นมาได้ เหมาะสำหรับงานในพื้นที่อับอากาศ (Confined Space) หรืองานกู้ภัยในสถานที่สูง
  • SRL แบบปรับระยะได้ (Adjustable SRL) : สามารถปรับความยาวของสายได้ตามต้องการ ทำให้เหมาะสำหรับงานที่มีความหลากหลายในการเคลื่อนไหว เช่น งานปีนเสาไฟฟ้าหรืองานซ่อมบำรุงบนโครงสร้างสูง

 

2 การเลือก SRL ให้เหมาะสมตามประเภทงาน

การเลือก SRL ให้เหมาะสมตามประเภทงาน

เพื่อเลือก SRL ที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการมากที่สุด ต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้

1. พิจารณาประเภทงานและความสูง

    • งานติดตั้งบนหลังคา : ควรเลือก Leading Edge SRL เนื่องจากมีความเสี่ยงในการเสียดสีกับขอบหลังคา ซึ่งอาจทำให้สาย Lifeline เสียหาย
    • งานติดตั้งโครงสร้างในที่สูง : ใช้ Standard SRL ที่มีความยาวสายเพียงพอต่อการเคลื่อนไหว และสามารถหยุดการตกได้ในทันที
    • งานในพื้นที่อับอากาศ : ควรใช้ Rescue SRL ที่มาพร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติและระบบช่วยกู้ภัย เพื่อความปลอดภัยในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
    • งานในที่แคบหรือมีสิ่งกีดขวาง : Adjustable SRL ที่สามารถปรับระยะความยาวสายได้จะช่วยให้ผู้ใช้งานทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น

2. น้ำหนักของผู้ใช้งาน

SRL แต่ละรุ่นจะมีการกำหนดน้ำหนักผู้ใช้งานสูงสุด หากผู้ใช้งานมีน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด อาจทำให้ระบบหยุดการตกทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น ควรเลือก SRL ที่รองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม และคำนึงถึงน้ำหนักของเครื่องมือหรืออุปกรณ์อื่นที่พกพาไปด้วย

3 การรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

3. การรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

SRL (Self-Retracting Lifeline) ที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยมีหลายยี่ห้อที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ANSI, OSHA, และ CE ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับอุปกรณ์ป้องกันการตกจากที่สูง โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและผ่านการรับรองมีดังนี้

    • 3M
      3M มีผลิตภัณฑ์ SRL หลายรุ่นที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เช่น 3M™ DBI-SALA® Nano-Lok™, Protecta®, และ Sealed-Blok™ ซึ่งรองรับทั้งงานทั่วไปและงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานติดตั้งโครงสร้าง และงานในพื้นที่อับอากาศ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบให้มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งในด้านความแข็งแรงของสาย (Web และ Cable) และระบบหยุดการตกที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐาน ANSI Z359.14-2021​
    • Guardian Fall Protection
      Guardian มีผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ CR3-Edge ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน ANSI Z359.14-2021 โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่เสี่ยงที่สายอาจสัมผัสกับขอบคม (Leading Edge) ผลิตภัณฑ์ของ Guardian ยังออกแบบให้มีระบบล็อคสองชั้นและอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น​
    • Werner
      Werner ได้ปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ SRL ของตนให้ตรงตามมาตรฐาน ANSI Z359.14-2021 รุ่นใหม่ที่สามารถแยกประเภทได้อย่างชัดเจนระหว่าง Class 1 (ใช้งานในแนวดิ่ง) และ Class 2 (ใช้งานที่ขอบมุม) ผลิตภัณฑ์ของ Werner เช่น Bantam และ Max Patrol มีการออกแบบโครงสร้างและการติดป้ายแสดงข้อมูลเพื่อให้การตรวจสอบและการใช้งานมีความสะดวกมากขึ้น​
    • MSA Safety
      MSA Safety ผลิต SRL ในซีรีส์ V-SERIES® ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยระบบแสดงข้อมูลด้วยสีต่าง ๆ เพื่อแยกประเภทของ SRL และตัวบอกระยะหยุดการตกที่อ่านได้สะดวก MSA ได้พัฒนา SRL สำหรับงานต่าง ๆ ทั้งในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง (Leading Edge) และงานทั่วไป​
    • FallTech
      FallTech มีผลิตภัณฑ์ SRL หลากหลายรุ่น เช่น DuraTech®, FT-X™, และ Arc Flash SRL ซึ่งรองรับการใช้งานในหลายสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง หรืองานที่ต้องการความทนทานต่อการเสียดสีของสายเคเบิล FallTech เน้นการออกแบบเพื่อใช้งานในงานที่ต้องการการเคลื่อนไหวในแนวดิ่งและงานที่มีความเสี่ยงของการตกจากขอบมุม​

การรับรองมาตรฐานหลักที่ควรพิจารณา

    • ANSI Z359.14-2021 : ระบุคุณสมบัติของ SRL ทั้งในด้านความแข็งแรงของวัสดุ ระยะหยุดการตก และการออกแบบสำหรับงานต่างๆ เช่น Class 1 สำหรับงานในแนวดิ่ง และ Class 2 สำหรับการใช้งานที่ต้องเผชิญกับขอบคม
    • OSHA 1910.140 และ OSHA 1926.502 : กำหนดมาตรฐานการป้องกันการตกที่ครอบคลุมการออกแบบ การใช้งาน และการตรวจสอบอุปกรณ์

การเลือก PPE ให้เหมาะสมตามลักษณะงาน ใช้ร่วมกับ SRL

PPE (Personal Protective Equipment) หรืออุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล เป็นส่วนสำคัญที่ต้องเลือกใช้ควบคู่กับ SRL เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตกจากที่สูง โดยประเภทของ PPE ที่ควรพิจารณามีดังนี้

1. การเลือก Harness หรือเข็มขัดนิรภัย

Harness เป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อผู้ใช้งานกับ SRL ซึ่งการเลือกควรพิจารณาจาก

    • งานทั่วไปหรือการทำงานบนพื้นราบสูง (Low-Level Work) : เลือก Harness ที่มีสายรัดทั้งตัวแบบ Full Body ซึ่งช่วยกระจายแรงกระแทกจากการตกไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี
    • งานกู้ภัยหรือพื้นที่อับอากาศ (Rescue Work) : ใช้ Harness ที่มีจุดเชื่อมต่อหลายจุดเพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ เช่น การดึงกลับจากด้านบน หรือการกู้ภัยในแนวราบ
    • งานบนโครงสร้างเหล็กหรือเสาไฟฟ้า : เลือก Harness ที่มีจุดเชื่อมต่อสำหรับตำแหน่งงานในแนวดิ่งและมีความทนทานสูง

2. การเลือกเชือกนิรภัย (Lanyard)

Lanyard เป็นส่วนประกอบที่เชื่อมระหว่าง Harness และจุดยึด ควรเลือกประเภทที่มีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี โดยพิจารณาดังนี้

    • Lanyard แบบยืดหยุ่น (Elasticated Lanyard) : เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหวอิสระและไม่ต้องการให้สายยืดยาวเกินความจำเป็น
    • Lanyard แบบดูดซับแรงกระแทก (Shock-Absorbing Lanyard) : ควรเลือกใช้ในกรณีที่ทำงานในความสูงมากกว่า 2 เมตร เพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นหากเกิดการตก
    • Lanyard แบบมีจุดเชื่อมต่อหลายจุด (Double-Leg Lanyard) : เหมาะสำหรับการเคลื่อนไหวในแนวราบและการเปลี่ยนจุดยึดบ่อยครั้ง เช่น งานบนหลังคาหรือบนโครงสร้างเหล็ก

3. การเลือกหมวกนิรภัย (Helmet)

หมวกนิรภัยที่ดีต้องสามารถป้องกันการกระแทกและการทะลุทะลวงได้ ควรเลือกหมวกที่มีสายรัดคาง (Chin Strap) เพื่อป้องกันการหลุดในกรณีตกจากที่สูง และเลือกแบบที่มีคุณสมบัติป้องกันไฟฟ้าสถิตหากทำงานใกล้กับแหล่งจ่ายไฟ

4. ถุงมือและรองเท้านิรภัย

การป้องกันมือและเท้าเป็นสิ่งที่มักถูกมองข้าม แต่มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยควรเลือก

    • ถุงมือที่ป้องกันการเสียดสีและการบาดเจ็บ : ใช้ถุงมือที่มีความทนทาน เช่น ถุงมือหนังหรือถุงมือที่เคลือบยางสำหรับงานติดตั้งโครงสร้าง
    • รองเท้าที่มีความสามารถในการยึดเกาะพื้นผิวสูง (Non-Slip Boots) : เหมาะสำหรับงานบนหลังคาและโครงสร้างเหล็กเพื่อป้องกันการลื่นไถล

คำแนะนำในการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ SRL และ PPE

การบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ SRL และ PPE เป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ยังคงมีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย

  • ตรวจสอบสภาพของสาย Lifeline ว่าไม่มีการชำรุด ขาด หรือมีรอยเสียดสี
  • ตรวจสอบระบบหยุดการตกว่าไม่ติดขัด และสามารถดึงกลับได้อย่างราบรื่น
  • ทำความสะอาด Harness และ Lanyard ด้วยน้ำสะอาดและผ้าแห้ง ห้ามใช้สารเคมีที่อาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ
  • เก็บรักษาอุปกรณ์ในที่แห้งและไม่มีความชื้น เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการเสื่อมของวัสดุ

ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกซื้อ

การเลือกซื้ออุปกรณ์ SRL และ PPE ควรคำนึงถึง

  • การรับประกันและบริการหลังการขายจากผู้ผลิต
  • การอบรมการใช้งานอย่างถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ
  • เลือกซื้อจากผู้จำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมความปลอดภัย